เมื่อ “ปู่” พูดถึง “ทอง”

IMG_1749

แปลและเรียบเรียง โดย ชัชวนันท์ สันธิเดช

“ถ้าคุณเอาทองคำในโลกมาหลอมรวมกัน มันจะเป็นก้อนลูกบาศก์ขนาดด้านละ 67 ฟุต และด้วยทองคำก้อนนี้ มันจะมีค่าเท่ากับเงินทุกวันนี้ 7 ล้านล้านเหรียญ .. ซึ่งคุณเอาไปซื้อไร่ทั้งหมดในสหรัฐฯ และเอ็กซอนโมบิลได้อีก 7 บริษัท แล้วยังเหลือเงินติดกระเป๋าอีก 1 ล้านล้านเหรียญ  .. และถ้าคุณให้ผมเลือกระหว่างทองคำ 67 ฟุตให้ผมนั่งมองทั้งวัน คุณให้ผมจับและเพลิดเพลินกับมัน … คุณอาจจะว่าผมบ้าก็ได้นะ แต่ผมจะเลือกไร่และเอ็กซอนโมบิล”

“ผมยอมรับว่า แม้อีกหนึ่งศตวรรษนับจากนี้ เมื่อผู้คนเกิดความกลัว พวกเขาก็น่าจะยังแห่กันไปหาทองคำ อย่างไรก็ตาม ผมก็มั่นใจอย่างยิ่งว่า ก้อน A มูลค่า 9.6 ล้านล้านเหรียญ (ไร่ทั้งหมดในสหรัฐฯ กับเอ็กซอนโมบิล 7 บริษัท) จะทบทวีขึ้นไปในอัตราเหนือกว่าที่ก้อน B (ทองคำทั้งโลก) ทำได้แน่นอน”

“ทองคำถูกขุดขึ้นจากดินในแอฟริกาหรือที่อื่นๆ จากนั้นเราก็หลอมมัน ขุดหลุมอีกหนึ่งหลุม ฝังกลบมันลงไป แล้วก็จ้างคนมายืนรอบๆ หลุมเพื่อเฝ้ามันไว้ ไม่มีประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ถ้ามีสิ่งมีชีวิตมองลงมาจากดาวอังคาร มันคงเกาหัวแกรกๆ ด้วยความงง”

“ทองคำมีข้อเสียใหญ่ๆ อยู่สองข้อ คือมันใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้มากนัก ทั้งยังสร้างผลผลิตอะไรไม่ได้เลย จริงอยู่ ทองคำอาจจะมีอรรถประโยชน์ในทางอุตสาหกรรมและใช้เป็นเครื่องประดับได้บ้าง แต่อุปสงค์ในแง่ดังกล่าวยากเหลือเกินที่จะดูดซับผลผลิตที่ออกมาใหม่”

“ถ้าคุณถือทองคำไว้หนึ่งออนซ์ตลอดกาล คุณจะยังมีทองคำแค่หนึ่งออนซ์ตลอดไป”

“ทองคำคือวิธี long ความกลัว และมันก็เป็นวิธี long ความกลัวที่ดีอยู่บ้างเป็นครั้งคราว แต่คุณต้องหวังมากๆ เลยว่า ในอีกหนึ่งหรือสองปีข้างหน้า จะมีคนที่กลัวมากกว่าที่คุณกลัวอยู่ในตอนนี้ และถ้าพวกเขากลัวมากกว่าคุณ คุณจึงจะได้เงิน แต่ถ้าพวกเขากลัวน้อยกว่าคุณ คุณก็จะเสียเงิน แต่ทองคำด้วยตัวของมันเองจะไม่ให้อะไรคุณเลย”

 

สาเหตุที่ “อีลอน มัสก์” รวยกว่าปู่

IMG_0109

โดย ชัชวนันท์ สันธิเดช

ความรวยของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ร่วงกราวรูด ในอันดับคนรวยที่จัดโดย Bloomberg (Bloomberg Billionaire Index)

โดยล่าสุด ปู่ถูก อีลอน มัสก์ นักธุรกิจและนวัตกรสติเฟื่อง แซงหน้าไปเป็นที่เรียบร้อย หลังจากหุ้นเทสล่าพุ่งกระฉูดถึง 11% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้มัสก์รวยขึ้น 6,100 ล้านเหรียญในวันเดียว และเป็นการพุ่งขึ้นถึง 269% ในหนึ่งปี

ล่าสุด มัสก์กลายเป็นคนรวยอันดับ 7 ของโลก

ก่อนหน้านี้ มัสก์เคยแขวะปู่อยู่หลายครั้ง ล่าสุดบอกว่า งานที่ปู่ทำนั้นโคตรน่าเบื่อ และด้วยนิสัยชอบเอาชนะของเขา ทำให้หลายคนมองว่าเขาน่าจะชอบใจที่รวยแซงหน้าปู่ได้

และไม่ได้แซงแค่ปู่เท่านั้น มัสก์ยังแซง สตีฟ บอลล์เมอร์ อดีต CEO ของไมโครซอฟท์, ลาร์รี เพจ – เซอร์เกย์ บริน แห่งกูเกิล และลาร์รี เอลลิสัน แห่งออราเคิล รวมทั้ง มูเคช อัมบานี มหาเศรษฐีอินเดียด้วย

อ่านถึงตรงนี้ หลายคนอาจนึกในใจว่า “เห็นมั้ยๆ ปู่ตกยุคแล้วจริงๆ” อันดับความรวยจึงร่วงลงจนเกือบจะหลุด top10 ด้วยซ้ำ

แต่ช้าก่อน !! ต่อไปนี้คือเหตุผลหลักที่ทำให้ปู่จนลง

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ปู่เพิ่งบริจาคหุ้นเบิร์คเชียร์อีก 2,900 ล้านเหรียญ (เกือบ 9 หมื่นล้านบาท) ให้การกุศล ตาม “คำมั่นเปลี่ยนโลก” (giving pledge) ของเขา รวมๆ แล้ว ปู่แจกหุ้นให้การกุศลเป็นมูลค่าถึง 37,000 ล้านเหรียญ (เกือบ 1.15 ล้านล้านบาท) เข้าไปแล้ว

คงไม่ต้องบอกว่าถ้าปู่ไม่ “บริจาค” มาตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อน เงินจำนวนดังกล่าวจะทบต้นกลายเป็นเท่าไรในปัจจุบัน

วอร์เรน บัฟเฟตต์ คือมนุษย์ที่หาไม่ได้อีกแล้วในโลกนี้จริงๆ


ข้อมูลประกอบจากเว็บ Bloomberg

 

เรื่องควรรู้ เกี่ยวกับ “ดีลยักษ์” ครั้งล่าสุดของ วอร์เรน บัฟเฟตต์

 

IMG_0009โดย ชัชวนันท์ สันธิเดช

มาช้ายังดีกว่าไม่มา หลังจากนิ่งเฉยมาตลอดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด-19 จนคนทั่วโลกคิดกันไปต่างๆ นานา ในที่สุด วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการครั้งสำคัญด้วยเงินก้อนโต และต่อไปนี้เป็นข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับดีลดังกล่าวครับ

  1. บริษัทที่ปู่ซื้อ ชื่อ “โดมิเนียน เอเนอร์จี” (Dominion Energy) เป็นธุรกิจขนส่งและจัดเก็บก๊าซธรรมชาติ
  2. มูลค่าของดีลครั้งนี้อยู่ที่เกือบ 10,000 ล้านเหรียญ โดยเบิร์คเชียร์จะจ่ายเงินสดเป็นค่าหุ้น 4,000 ล้านเหรียญ และใช้หนี้ให้บริษัทอีก 5,700 ล้านเหรียญ
  3. โดมิเนียน เป็นเจ้าของท่อส่งก๊าซความยาว 7,700 ไมล์ กับก๊าซปริมาณ 9 แสนล้านคิวบิคฟุต และสินทรัพย์อื่นๆ บริษัททำธุรกิจจัดหาไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติให้แก่หลายพื้นที่ในแปดรัฐของสหรัฐฯ
  4. บริษัทก่อตั้งเมื่อปี 1983 สำนักงานใหญ่อยู่ที่เวอร์จิเนีย จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กโดยใช้ตัวย่อ “D” (ตัวเดียวโดดๆ)
  5. มูลค่าตลาดของโดมิเนียน ณ วันนี้อยู่ที่ประมาณ 62,000 ล้านเหรียญ คิดเป็นเงินไทยเกือบ 2 ล้านล้านบาท สูงกว่า ปตท. เกือบ 70%
  6. ปู่ระบุใน press release เมื่อวันอาทิตย์ (ตรงกับวันจันทร์เวลาไทย) ที่ผ่านมาว่า “เราภูมิใจมากที่ได้เพิ่มสินทรัพย์ด้านก๊าซธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจพลังงานที่แข็งแกร่งอยู่แล้วของเรา”
  7. ดีลนี้เป็นดีล “ใหญ่ที่สุด” นับตั้งแต่ปู่เข้าซื้อ พรีซิชั่น แคสต์พาร์ทส์ บริษัทผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินเมื่อปี 2016
  8. การซื้อกิจการครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ปู่ใช้เงินสดของเบิร์คเชียร์ที่นอนจมอยู่ถึง 137,000 ล้านเหรียญอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน นับตั้งแต่เกิดโควิดเป็นต้นมา โดยเงินที่ถูกใช้ไป คิดเป็น 7% ของเงินสดที่มีอยู่ทั้งหมด
  9. การเข้าซื้อครั้งนี้ยังเป็นการยืนยันว่า ปู่ “อยากใช้เงิน” และยังคงมองหาโอกาสลงทุนอยู่เสมอ ไม่ใช่การ “อยู่นิ่งๆ” เพราะต้องการเก็บเงินสดไว้ “รอตลาดตก” แต่อย่างใด
  10. เดวิด คาสส์ ศาสตราจารย์ด้านไฟแนนซ์ของมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์กล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการของบัฟเฟตต์ครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณที่เป็นบวกมากๆ ต่อตลาด

ข้อมูลประกอบจาก BusinessInsider, Bloomberg, CNBC