HMPRO

[ข้อมูลในส่วนนี้ งดอัพเดตมาตั้งแต่ปี 2557 ครับ]

Disclaimer : เนื้อหาส่วนนี้ เป็นการวิเคราะห์บริษัทจดทะเบียนโดยทีมงาน Club VI โดยมุ่งเน้นที่ “ตัวธุรกิจ” ไม่ใช่ตัวหุ้น ขอยืนยันว่าเนื้อหาทั้งหมด ไม่ใช่การชี้นำ ไม่ได้หมายความว่าหุ้นตัวนั้น “น่าซื้อ” หรือ “ไม่น่าซื้อ” และทีมงานไม่สามารถรับผิดชอบใดๆ จากการนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ ผู้ลงทุนควรพิจารณาตัดสินใจลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จํากัด (มหาชน)

hmpro2

**เนื้อหาเรียงตามลำดับเหตุการณ์จากก่อนไปหลัง**

โดย ชัชวนันท์ สันธิเดช

[เขียนวันที่ 15 เม.ย. 2557]

ตั้งท่าจะเขียนวิเคราะห์โฮมโปร (HMPRO) นานแล้ว แต่รอให้ไปประชุมผู้ถือหุ้นเรียบร้อยก่อน เพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วนกระบวนความ แล้วค่อยจัดการซะทีเดียว

ผลประกอบการปี 56 ออกมา ถือว่าไม่เลวเลยครับ ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ รายได้จากการขายปี 56  “4 หมื่นล้าน” เพิ่มขึ้น 16 % กำไรสุทธิ “3 พันล้าน” เพิ่มขึ้น 15 % 

จะเห็นได้ว่า โฮมโปรยังทำให้กำไรโตได้ 15% ขณะที่บริษัทค้าปลีกอื่นๆ เจอพิษการบริโภคในประเทศชะลอตัว กระทบกันถ้วนหน้า บางบริษัทโตสองหลักมาแทบทุกปี มาหยุดโตเอา่ปี 56 นี้เอง

แม้ตัวเลข 15% จะดูไม่เยอะเมื่อเทียบกับหลา่ยปีก่อนที่โต 20-30% แต่ต้องไม่ลืมว่าผลประกอบการปี 55 ของโฮมโปร โตโดดถึง 33% อันเป็นผลมาจากการที่คนแห่ซ่อมบ้านหลังน้ำท่วมปลายปี 54

พูดง่ายๆ ก็คือ “ฐานเดิม” ก็สูง แถมยังเจอ “ภาวะหน้าศึก” คือเศรษฐกิจไม่ดี แต่โฮมโปรยังโตได้ขนาดนี้ โดยส่วนตัวผมมองว่าน่าพอใจครับ

[5 ปีที่ผ่านมายอดขายโตเฉลี่ย 18.52% ส่วนกำไรโตเฉลี่ย 28 % คิดแบบ CAGR]

hmpro5

ตัวจักรหลักของการเติบโตยังเป็นการขยายสาขา ในปี 56 โฮมโปรเปิดร้านใหม่ 11 สาขา รวมแล้วขณะนี้มีร้านโฮมโปร (HomePro) “64 สาขา” บวก เมกาโฮม (Mega Home) อีก “2 สาขา” ที่รังสิต และแม่สอด (ใครผ่านไปแถวรังสิตจะเห็นเลย ร้านใหญ่ๆ มีป้ายสีเขียวขี้ม้าอยู่ริมถนน เห็นชัดเจน) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 3.5 หมื่นล้านบาท

ปี 57 บริษัทวางแผนว่าจะเปิดโฮมโปรอีก 11 สาขา บวกกับโฮมโปรที่มาเลเซียอีก 1 สาขา ซึ่งจะเปิด พ.ย.นี้ และจะเปิดเมกาโฮมอีก 4 สาขา โดยเตรียมงบลงทุนไว้ “7-8 พันล้าน” บาท

แต่อย่างที่ทราบคือ แม้จะตั้งเป้าขยายอีกปีละร่วมสิบสาขา ทว่าตอนนี้จังหวัดหลักๆ บริษัทก็ไปปักธงไว้หมดแล้ว เหลือแค่จังหวัดรองๆ ซึ่งกำลังซื้อน้อยกว่าเยอะ จึงเป็นเรื่องดีที่จะหันมาเปิดเกมใหม่ในตลาดวัสดุก่อสร้างภายใต้แบรนด์เมกาโฮม

ที่น่าสนใจคือ ฟังจากผู้บริหารในวันประชุมผู้ถือหุ้นทราบว่า ทีแรก เมกา โฮม รังสิต ก็ยังไม่ค่อยดีนัก แต่ตอนนี้ปรับจนเป็นไปตามเป้าแล้ว แสดงให้เห็นว่าตลาดวัสดุก่อสร้างเป็นอะไรที่ยังต้องลุ้นกันต่อไป (คู่แข่งรายใหญ่เยอะด้วย)

hmpro3

ในส่วนของ โฮมโปร ที่มาเลย์ ผู้บริหารบอกว่า ดูจาก market size มี potential ที่จะโตได้ถึง 40 สาขา แต่ก็ยอมรับว่านั่นคือความเป็นไปได้เท่านั้น ต้องลองดูก่อนถึงจะรู้ อาจจะ fail ก็ได้

อันนี้จริงมากๆ ครับ เรื่องของต่างประเทศนี่เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้เลย บางบริษัทยักษ์ใหญ่ว่าแน่แล้ว พอขยายไปต่างประเทศกลับเจ๊งไม่เป็นท่าเลยก็มี ในส่วนนี้จึงยังไม่ควรหวังอะไรมาก

วิธีโตอีกอย่าง คือเพิ่มสินค้า private brand ซึ่งมี margin สูงกว่า ตรงนี้เป็นอะไรที่ผมมองว่าชัวร์สุดแล้ว และบริษัทก็กำลังเน้นอยู่ โดยโฮมโปรน่าจะเพิ่มสัดส่วนสินค้า brand ตัวเองได้อีกเยอะเมื่อเทียบกับร้านลักษณะเดียวกันของต่างประเทศ (โดยส่วนตัวผมจำได้แบรนด์เดียว คือ Moya)

สำหรับในเรื่องของปันผล บริษัทยังคงนโยบายจ่ายปันผลเป็นหุ้นต่อไป แต่ก็สามารถเลี้ยง EPS ไม่ให้ลดลงมาก เนื่องจากกำไรเพิ่มขึ้นตลอด

โดยสรุป โฮมโปรยังไปได้ดีอยู่ และน่าจะโตได้อีกพอสมควร แต่เป็นการโตที่ความแน่นอนน้อยลงกว่าแต่ก่อนเยอะ อันเนื่องมาจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก

ในส่วนของราคา ขณะนี้ EPS = 0.32 เทียบกับราคา 10.10 ณ ปิดตลาดวันที่ 11 เม.ย. คิดเป็น P/E 31 เท่า ถือว่าแพงเอาการครับ

—————————-

hmpro8โดย ชัชวนันท์ สันธิเดช และ ชนิดา พัธโนทัย

[เขียนวันที่ 5 ส.ค. 2557]

งบไตรมาส 2 ของ HMPRO ออกแล้วครับ

“รายได้รวม” เพิ่มขึ้น 23.76% เป็น 12,788.24 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว หลักๆ มาจาก “รายได้จากการขาย” ซึ่งมาจากสาขาที่เปิดใหม่ และการเติบโตของสาขาเดิม

โดย Same-store Sales Growth (SSSG) ของบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 4% สาเหตุสำคัญน่าจะมาจากการเพิ่มสัดส่วนของสินค้า house brand ซึ่งถือว่าบริษัททำได้ไม่เลวเลย

อย่างไรก็ตาม “กำไรสุทธิ” กลับเพิ่มแค่ 8.57% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน!!

ถามว่าทำไม “รายได้” เพิ่ม “เยอะ” แต่ “กำไรสุทธิ” เพิ่ม “น้อย” … เราลองมาดูกันทีละบรรทัดนะครับ

ขั้นแรก “กำไรขั้นต้น” เพิ่มขึ้น 548.14 ล้านบาท หรือเพิ่ม 20.88% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว โดย Gross Margin อยู่ที่ 26.39% ใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 26.94% แต่ต้องทำใจไว้ว่า ต่อไปตัวเลขนี้จะลดลงแน่นอน เพราะมีธุรกิจ “เมกาโฮม” ที่ Gross Margin ต่ำกว่าเข้ามาพ่วงด้วย

ที่ต้องระวังคือบรรทัดต่อไป…

Profits2

“ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร” (SG&A) ของ HMPRO เพิ่มขึ้น 25.41% ถือว่าเพิ่มสูงมาก สูงกว่าการเพิ่มของรายได้เสียด้วยซ้ำ!!

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ SG&A เพิ่มเยอะ น่าจะมาจากค่าใช้จ่ายในการเปิดสาขาของเมกาโฮม รวมถึงโฮมโปรสาขามาเลเซีย เพราะบริษัทต้องจ้างคน ต้องจ่ายค่าขนส่ง รวมทั้งจ่ายค่าใช้จ่ายจิปาถะอีกมากมาย

นี่แหล่ะครับ คือปัจจัยสำคัญที่มาบั่นทอนกำไร!!

ด้วยเหตุนี้ “กำไรจากการดำเนินงาน” (EBIT) ในไตรมาส 2 ปี 57 จึงเพิ่มขึ้นเพียง 13% อยู่ที่ 1,101 ล้านบาท (ทั้งๆ ที่รายได้เพิ่มขึ้นถึง 26%) และ EBIT Margin ลดจาก 9.4% เหลือ 8.6% เมื่อเทียบกับ Q2 ปีที่แล้ว

hmpro5

ยังไม่หมดนะครับ ยังมีอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้กำไรเพิ่มน้อย ทั้งๆ ที่รายได้เพิ่มกระฉูด นั่นก็คือ “ดอกเบี้ยจ่าย”

จากข้อมูลที่รายงานออกมา HMPRO มีดอกเบี้ยจ่ายในไตรมาส 2 ปี 57 (เฉพาะ 3 เดือน) ประมาณ 106 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 52.5 ล้านบาท จะเห็นได้ว่าเพิ่มขึ้น “เกือบเท่าตัว” เลยทีเดียว

เหตุที่ดอกเบี้ยจ่ายสูงขึ้นขนาดนี้ เป็นเพราะปี 2556 แทบจะเรียกได้ว่าเป็น “ปีแห่งการลงทุน” ของ HMPRO เลยก็ว่าได้

โดยในปี 2556 ทั้งปี บริษัทได้ทุ่มลงทุนเป็นจำนวนเงินกว่า “9,000 ล้านบาท” ใช้เงินสดที่มีอยู่ราว “5,000 ล้าน” และกู้เพิ่มอีกประมาณ “4,000 ล้าน” ในการลุยเปิดโฮมโปรถึง 11 สาขา (มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา) และเมกาโฮมอีก 2 สาขา

ทั้งนี้ ในส่วนที่กู้เพิ่ม บริษัทใช้การ “ออกหุ้นกู้” เป็นหลัก และอันที่จริงถ้าเราย้อนไปดูงบปี 2556 เต็มปี จะเห็นว่าดอกเบี้ยจ่ายก็เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากงบปี 2555 อันเป็นผลมาจากการออกหุ้นกู้เพื่อขยายกิจการในไตรมาส 3 ปี 56 นั่นเอง

นอกจากนี้ ในไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ปี 57 ที่เรากำลังวิเคราะห์กันอยู่นี้ บริษัทยังออกหุ้นกู้เพิ่มอีกราวๆ 1,000 ล้านบาท และกู้เงินเพิ่มอีกประมาณ 1,000 ล้าน จึงทำให้หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย (Interest-bearing Debt หรือ IBD) ของ HMPRO ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 57 เพิ่มขึ้นมาเป็น 11,000 ล้านบาท

เมื่อ “หนี้” เยอะขึ้น ก็ต้องจ่าย “ดอกเบี้ย” สูงขึ้นเป็นธรรมดา (แม้บริษัทจะได้อัตราดอกเบี้ยที่ดี คือเฉลี่ยประมาณ  3.6-3.8% ซึ่งถือว่าไม่มากเลยก็ตาม)

hmpro

โดยสรุป HMPRO กำลังมาถึง “หลักกิโลเมตรสำคัญ” ที่จะตัดสินอนาคตของบริษัท หลังจากขยายธุรกิจมาทำเมกาโฮม ซึ่งเท่ากับมีโมเดลธุรกิจใหม่เข้ามาซ้อนทับกับของเดิม อันจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก

คาดว่าคงเห็นผลกันเร็วๆ นี้ว่าจะเวิร์คหรือไม่

อีกประเด็นหนึ่งคือ การขยายสาขาไปที่มาเลย์ ซึ่งจะบ่งบอกถึงการขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆ ใน AEC ต่อไปในอนาคต ว่าจะมีโอกาสแค่ไหนและจะไปได้สวยหรือไม่ โดยหัวใจสำคัญอยู่ที่การควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ระหว่างขยายกิจการ ว่าบริษัทจะทำได้ดีเพียงใด

จึงขอแนะนำให้ “จับตาดูอย่างใกล้ชิด” นับจากนี้เป็นต้นไปครับ !!

[เครดิตภาพ: โลโก้ HMPRO จากเว็บไซต์ของบริษัท]

——————————-

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s