
โดย ชัชวนันท์ สันธิเดช
เคน ฟิชเชอร์ ผู้จัดการกองทุนระดับมหาเศรษฐี ลูกชายแท้ๆ ของฟิลลิป ฟิชเชอร์ หนึ่งในสองคนที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ยกให้เป็น “แม่แบบ” นอกเหนือจากเบนจามิน แกรแฮม ออกมาชี้ชัดว่า สาเหตุที่ “ปู่” ไม่โดดเข้ามาซื้อหุ้นในช่วงวิกฤตโควิด-19 เพราะ “แก่แล้ว”
“ความเป็นจริงเกี่ยวกับนักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย ซึ่งรวมถึงพ่อผมด้วย คือพออายุมาถึงจุดหนึ่ง พวกเขาจะเสียความเฉียบคมไป ผมไม่ได้บอกว่าคุณบัฟเฟตต์ไม่คมเหมือนแต่ก่อนนะ แต่ผมนึกไม่ออกเลยว่ามีครั้งไหนในประวัติศาสตร์ที่คนอายุเท่าเขาไม่แข็งทื่อประมาณนี้เวลาเกิดวิกฤต”
“พวกเขาแค่อยู่เฉยๆ เวลาเกิดวิกฤต .. ผมมีเซ้นส์ว่าคุณบัฟเฟตต์กำลังเป็นอย่างนั้น เขากำลังก้าวเข้าสู่เฟสของการนิ่งเฉยในชีวิต ซึ่งมาจากอายุของเขา แต่ถามว่าผมอาจจะมองผิดหรือเปล่า? ก็เป็นไปได้นะ” ผู้เป็น “ลูกอาจารย์” ของบัฟเฟตต์กล่าว
สำหรับประวัติของ เคน หรือ เคนเน็ธ ฟิชเชอร์ นอกจากจะเป็นลูกชายของนักลงทุนระดับตำนานอย่างฟิลลิป ฟิชเชอร์ แล้ว ตัวเขาเองถือว่าประสบความสำเร็จสูงมาก โดยเขาได้ตั้งกองทุนของตัวเองเมื่อปี 1979 ด้วยเงินเพียง 250 เหรียญ และบริหารจนกลายเป็น 100 ล้านเหรียญ
ปัจจุบัน บริษัท ฟิชเชอร์ อินเวสต์เมนท์ ของเขาบริหารเงินจำนวนมหาศาลถึง 1.12 แสนล้านเหรียญ โดยที่ตัวเขาเองมีความมั่งคั่งประมาณ 4,300 ล้านเหรียญ และติดอันดับร้อยกว่าๆ ใน Forbes 400 หรืออันดับคนรวยที่สุดของสหรัฐฯ ที่จัดโดยฟอร์บส์แมกกาซีนอีกด้วย
แก่นความคิดในการลงทุนของ เคน ฟิชเชอร์ มีอยู่หลายประการ หนึ่งในนั้นคือการคิดค้นตัวชี้วัดที่เรียกว่า PSR หรือ Price-to-Sales Ratio เพื่อใช้ในการวัดความถูกแพงและหาหุ้นที่ undervalued แทนที่จะใช้ P/E หรือ P/BV แต่ต่อมาเมื่อ PSR ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย เขาก็ออกมายอมรับว่ามันใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป
นอกจากนี้ เคนยังแบ่งหุ้นออกเป็น 6 ประเภท คือ หุ้นคุณค่าที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ กลาง และ เล็ก และหุ้นเติบโตที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก โดยในช่วงปลายทศวรรษ 1980 กองทุนของเขาเน้นลงทุนในหุ้นคุณค่าขนาดเล็กแนว “วีไอแท้ๆ” ซึ่งเป็นแนวที่ไม่มีกองทุนไหนทำ
นอกเหนือจากอาชีพลงทุน ฟิชเชอร์ยังเขียนหนังสือออกมา 11 เรื่อง บางเรื่องขายดีมากๆ เช่น The Only Three Questions That Count และ Wall Street Watz โดยมีหนึ่งเรื่องที่แปลเป็นภาษาไทย ได้แก่ The Ten Roads to Rishes (แปลโดย ชัชวนันท์ Club VI)
อย่างไรก็ตาม ฟิชเชอร์เป็นคน “ปากกล้า” จึงมักถูกด่าอยู่เสมอ ล่าสุดเขาเพิ่งโดนประนามจากการพูดถึงผู้หญิงอย่างไม่เหมาะสม โดยให้สัมภาษณ์ว่า
“เงินและเซ็กส์ เป็นสองสิ่งที่ส่วนตัวที่สุดสำหรับคนส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้น เวลาพยายามหาลูกค้าใหม่ๆ คุณต้องระวังให้ดี เหมือนเดินตรงไปหาสาวคนหนึ่งในบาร์ … ไปหาผู้หญิงในบาร์ แล้วบอกว่า ‘ขอถามหน่อยว่าข้างในกางเกงในของคุณมีอะไรเอ่ย’”
และคำกล่าวนี้เอง ทำให้เขาถูกถอนเงินลงทุนไปราวๆ 1,000 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
—
ข้อมูลประกอบ : wikipedia, Forbes.com
ภาพจาก : common.wikimedia.org