
เขียนและเรียบเรียงโดย ชัชวนันท์ สันธิเดช
- ซุปเปอร์ลีก (Super League) เป็นการจัดแข่งขันฟุตบอลของสโมสรฟุตบอลชั้นนำ 15 สโมสรในยุโรป ได้แก่ มิลาน อาร์เซนอล แอตมาดริด เชลซี บาร์เซโลน่า อินเตอร์ ยูเวนตุส ลิเวอร์พูล แมนซิตี้ แมนยู รีลมาดริด ท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์ และสโมสรที่ยังไม่เปิดเผยชื่ออีก 3 สโมสร โดยไม่มีสโมสรจากเยอรมนีและฝรั่งเศส (จึงไม่มีทีมอย่าง PSG หรือ บาเยิร์น มิวนิค)
- ผู้ที่เสียประโยชน์เต็มๆ ย่อมจะเป็น “ยูฟ่า” องค์กรฟุตบอล ซึ่งเป็นผู้จัดแข่ง ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก (UCL) รวมถึงยูฟ่ายูโรป้าลีก (UEL) ที่ทีมเหล่านี้ร่วมแข่งขันอยู่ แต่แถลงการณ์ของซุปเปอร์ลีกก็บอกว่า ต้องการจะเจรจากับทั้งฟีฟ่าและยูฟ่า เพื่อให้ลีกที่จะตั้งขึ้นมาใหม่นี้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ และเป็นผลบวกต่อโลกฟุตบอลโดยรวม (ประเด็นนี้ผมมองว่าน่าจะเป็นการแสดงออกในเชิงการทูตมากกว่าการแสดงท่าทีอย่างจริงจัง – แอดมิน)
- แถลงการณ์ระบุว่า เหตุที่ต้องตั้ง ซุปเปอร์ลีก ขึ้นมา ก็เพราะการระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลให้ “ความไร้เสถียรภาพ” ของ “โมเดลทางเศรษฐกิจ” ของฟุตบอลยุโรปถูกเร่งขึ้นอย่างรุนแรง (แปลเป็นภาษาชาวบ้านคือ ทำให้รายได้หดหาย การจัดแข่งขันบอลยุโรปแบบเดิมๆ ของยูฟ่า ทำเงินให้สโมสรชั้นนำต่างๆ ไม่ได้เหมือนแต่ก่อน – แอดมิน)
- แถลงการณ์ระบุด้วยว่า อีกสาเหตุหนึ่งที่ต้องตั้งซุปเปอร์ลีก ก็เพราะสโมสรที่จะร่วมกันก่อตั้งนี้ มีความพยายามมานานแล้ว ที่จะหาทางเพิ่มคุณภาพและความเข้มข้นของการแข่งขันฟุตบอลยุโรป ด้วยการสร้างรูปแบบที่จะทำให้ทีมชั้นนำได้มาฟาดแข้งกันเป็นประจำ
- เมื่อเกิดโควิดขึ้น จึงต้องอาศัยวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์และวิธีทางการค้าใหม่ เพื่อสร้างเสริมและสนับสนุนประโยชน์ของ “พีรามิดฟุตบอลยุโรป” (ผมมองว่าน่าสนใจมากๆ ที่ใช้วลี “พีระมิดฟุตบอล” แต่ในแถลงการณ์ไม่ได้มีการขยายความวลีนี้ – แอดมิน)
- แถลงการณ์อ้างด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีความพยายามในการพูดคุยหาทางออกกันมาแล้วหลายรอบ แต่ทางผู้ก่อตั้งซุปเปอร์ลีกไม่เชื่อว่าทางออกที่มีการเสนอกันออกมา จะสามารถแก้ปัญหาเชิงพื้นฐาน โดยจัดให้มีการแข่งขันฟุตบอลคุณภาพสูง และเป็นแหล่งทรัพยากรทางการเงินอันน่าพอใจสำหรับบรรดาสโมสรต่างๆ ได้
- การแข่งขันซุปเปอร์ลีก จะประกอบไปด้วย 20 สโมสร โดยนอกจากสโมสรผู้ก่อตั้ง 15 สโมสร จะมีกลจักรในการสรรหาอีก 5 สโมสรมาร่วมแข่งขันกันในแต่ละฤดูกาล โดยพิจารณาจากความสำเร็จและผลงานในฤดูกาลก่อนหน้า (แถลงการณ์ไม่ได้ระบุถึงทีมที่จะถูกคัดออกหรือตกชั้น ว่ามีระบบอย่างไร – แอดมิน)
- การแข่งขันจะมีขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ ซึ่งหมายความว่าแต่ละสโมสรจะสามารถเตะตามโปรแกรมลีกในประเทศของตนเอง ที่ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของตารางการแข่งขันของสโมสรต่างๆ ไปได้ตามปกติ (แต่ก็อย่างที่ตั้งข้อสังเกตไปแล้วว่า ที่กระทบเต็มๆ ย่อมจะเป็น UCL และ UEL ของยูฟ่า หรือถ้าจะพูดให้ชัด นี่อาจเป็นรายการที่จะมาทดแทน UCL เลยก็ว่าได้ – แอดมิน)
- การแข่งขันจะเริ่มต้นในเดือน ส.ค. (ช่วงเริ่มต้นลีกในประเทศของฟุตบอลยุโรป) โดยจะแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มละ 10 ทีม เล่นเหย้าเยือนกัน สามทีมแรกของแต่ละกลุ่มจะได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบก่อนรองชนะเลิศโดยอัตโนมัติ ทีมอันดับ 4 และ 5 จะเล่นสองเลกแบบเหย้าเยือน เพื่อชิงตั๋วใบสุดท้ายของแต่ละกลุ่ม ซึ่งจะทำให้ได้ทีมที่จะเล่นรอบก่อนรองฯ ครบ 8 ทีม ส่วนรองรองชนะเลิศก็จะเล่นสองเลกเช่นกัน แล้วไปชิงชนะเลิศแบบเลกเดียวที่สนามเป็นกลาง
- ประเด็นนี้สำคัญมาก แถลงการณ์ระบุว่า ทัวร์นาเม้นท์ใหม่นี้จะช่วยสร้างการเติบโตและการสนับสนุนทางเศรษฐกิจให้กับฟุตบอลยุโรปในระยะยาว ด้วย “uncapped solidarity payment” หรือเงินสนับสนุนที่จะแบ่งให้แต่ละสโมสรโดยแปรผันตามรายได้ที่ทำได้ โดย “ไม่มีการกำหนดเพดาน” (พูดง่ายๆ คือ ถ้าซุปเปอร์ลีกทำเงินได้มาก แต่ละสโมสรก็ได้ส่วนแบ่งมากขึ้นไปเรื่อยๆ) ซึ่งคาดว่าจะสูงกว่าส่วนแบ่งที่ได้จากการแข่งขันฟุตบอลยุโรปในปัจจุบัน และคาดว่าจะสูงกว่า 10,000 ล้านยูโร ตลอดช่วงระยะเวลาที่ตกลงร่วมกันแข่งขัน (ไม่ได้ระบุว่าระยะเวลาเบื้องต้นคือจะแข่งกันกี่ฤดูกาล – แอดมิน)
- ที่สำคัญมากๆ เช่นกัน คือสโมสรที่ตกลงปลงใจมาร่วมกันก่อตั้งลีก จะได้รับเงินทันที สโมสรละ 3,500 ล้านยูโร เพื่อเอาไปใช้เป็นทุนสำหรับลงทุนและบำรุง facility ต่างๆ รวมทั้งชดเชยความเสียหายจากผลกระทบของโควิด-19 (แถลงการณ์ไม่ได้ระบุว่า เงิน 3,500 ล้านยูโรต่อสโมสร รวม 15 สโมสรก็เท่ากับ 5.25 หมื่นล้านยูโรนี้ จะมาจากแหล่งใด แต่ผมเดาเอาเองว่าน่าจะมาจากเงินกู้ ที่ทางนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นมาเพื่อจัดการแข่งขัน จะกู้จากสถาบันการเงินระดับโลก แล้วเอามาจ่ายให้สโมสรผู้ร่วมก่อตั้ง – แอดมิน)
- ฟลอเรนติโน เปเรซ ประธานสโมสรรีล มาดริด และประธานคนแรกของซุปเปอร์ลีก บอกว่า “เราจะช่วยฟุตบอลในทุกๆ ระดับ โดยช่วยให้มันได้อยู่ในจุดที่เหมาะสมของโลก”
และนี่คือรายละเอียดเกี่ยวกับซุปเปอร์ลีก initiative ช็อคโลกที่ประกาศออกมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ซึ่งดูจากท่าทีแล้ว คงไม่ใช่แค่ลีลาการต่อรองกับยูฟ่า แต่น่าจะเป็นเรื่องจริง แต่ทางยูฟ่ารวมถึงองคาพยพอื่นๆ ของโลกฟุตบอลจะมีท่าทีอย่างไรต่อไป คงต้องรอดูกันต่อไปครับ
——–
Credit : ภาพและข้อมูลประกอบจากแถลงการณ์ของสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ https://www.tottenhamhotspur.com/news/2021/april/leading-european-football-clubs-announce-new-super-league-competition/?fbclid=IwAR2H_vucoDcSutkpIRdGe6XW0EHIDAmVlypX2coI-jxZQm4IKwpTdwCVTd0