โดย ชัชวนันท์ สันธิเดช
กำไรสุทธิไตรมาส 3 ของบริษัทใน SET ลดลงถึง 70% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ลดลง 20% เทียบกับงวด 9 เดือนของปีที่แล้ว และลดลง 72% เทียบกับไตรมาส 2 ของปีนี้ (ข้อมูลจาก ฐานเศรษฐกิจ อ้างจาก บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส)
เป็นตัวเลขที่ “แย่” จนไม่น่าเชื่อเลยนะครับ
ลองไล่ดูเป็นรายอุตสาหกรรม กลุ่มที่กำไรเพิ่มมากที่สุดเรียงตามลำดับ คือ 1) ท่องเที่ยวและบริการ 2) ยานยนต์ และ 3) สุขภาพ ส่วนกลุ่มที่กำไรลดลงมากที่สุดเรียงตามลำดับ คือ 1) พลังงาน 2) ธนาคารพาณิชย์ และ 3) ค้าปลีก (ข้อมูลจาก ฐานเศรษฐกิจ อ้างจาก บล. กรุงศรีฯ)
ถามว่า ในเมื่อมันแย่ขนาดนี้ ทำยังไงกันดี?
หลังจากตามผล Q3 มาอาทิตย์กว่าๆ ผมลองใช้เวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เขียน solutions สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นไทยออกมา (ซึ่งที่จริงมันอยู่ในหัวมานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสเรียบเรียง) ตามนี้ครับ
หนึ่ง) เลือกลงทุนในหุ้นที่รายรับมาจากต่างประเทศมากๆ ยิ่งมากเท่าไรยิ่งดี จะหวังกำลังซื้อจากในประเทศไม่ได้อีกต่อไป และอย่ายึดมั่นความเชื่อเดิมๆ ที่บอกว่าให้ลงทุนในธุรกิจที่ขายของที่คนต้องกินต้องใช้แล้วจะไม่กระทบ นาทีนี้อะไรก็กระทบหมด
จริงอยู่ที่คนเราทุกคนต้องกินข้าว แต่เวลาไม่มีเงิน ทุกคนก็กินข้าวน้อยลงได้เหมือนกัน
สอง) ให้เลือกลงทุนในบริษัทที่เป็น “super monopoly” ผมเน้นคำว่า “super” คือต้องผูกขาดแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไม่ใช่ผูกขาดแบบก้ำกึ่ง นาทีนี้บริษัทที่เป็นขาใหญ่จริงๆ จึงจะเจ็บน้อย
ถ้าไม่แน่ใจว่าบริษัทที่เราคิดเป็น super monopoly หรือเปล่า ให้ลองนึกดูว่า ถ้าไม่ซื้อสินค้าหรือบริการของบริษัทนี้แล้วจะซื้อของบริษัทไหน หากคุณนึกให้ตายก็นึกไม่ออก นั่นแหละครับ ใช่เลย .. super monopoly แน่ๆ
สาม) ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มที่จะเป็น sideways ไปอีกนาน ซึ่งหมายความว่าหุ้นจะขึ้นๆ ลงๆ สลับกันไปเรื่อยๆ เราจึงไม่ควรเอาเงินไว้ในหุ้นมากเกินไป แต่ควรถือเงินสดไว้เพื่อหาโอกาสซื้อเวลาที่หุ้นลงแรงๆ ซึ่งจะทำให้ได้ต้นทุนที่ต่ำกว่า (ต่างจากเมื่อ 3-4 ปีก่อนหน้านี้ที่ตลาดยังเป็นขาขึ้น ช่วงนั้นต้องรีบซื้อ มัวรอของถูกไม่ได้ ไม่งั้นอาจพลาดแล้วพลาดเลย)
สี่) ลองศึกษาการลงทุนในต่างประเทศดู ปัจจุบันสามารถเปิดพอร์ตกับโบรกเกอร์ในเมืองไทยได้แล้ว แม้จะมีข้อจำกัดต่างๆ มากมาย แต่ก็ถือว่าสะดวกขึ้นมากและต้นทุนต่ำลงเยอะ
เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เราต้องปรับความคาดหวังของตัวเอง โดยมองสถานการณ์ตามความเป็นจริง
นั่นจะช่วยให้เราสามารถลงทุนในหุ้น (ซึ่งเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด) ได้ต่อไปโดยไม่เป็นทุกข์ครับ
[ข้อมูลประกอบจาก ฐานเศรษฐกิจออนไลน์, ภาพประกอบจาก pixabay]