ถอดรหัส ปู่ “ขายหุ้นแบงก์” ทำไม

Warren_Buffett_at_the_2015_SelectUSA_Investment_Summit

โดย ชัชวนันท์ สันธิเดช

16 พ.ค. 2020

วอร์เรน บัฟเฟตต์ ช็อคโลกอีกแล้ว ด้วยการเทขายหุ้นสถาบันการเงินออกมาเป็นจำนวนมาก

ที่เยอะสุดคือ โกลด์แมน แซคส์ ซึ่งถือมาตั้งแต่ Financial crisis ปี 2008 โดยนับจากต้นปี หุ้นโกลด์แมนร่วงลงมาถึง 33% หรือ 1 ใน 3

สถานการณ์เช่นนี้ ถ้ากางตำราเดิมของปู่ ต้องเข้าไป “ซื้อเพิ่ม” จึงจะถูก แต่ปรากฏว่าปู่กลับเทขายออกมา

จากรายงานล่าสุดที่แจ้งต่อ กลต. เบิร์คเชียร์เหลือหุ้นในโกลด์แมนไม่ถึง 2 ล้านหุ้น จากเดิม 12 ล้านหุ้น ลดลงถึง 84% จากเดิมมีหุ้นอยู่ในมือมูลค่าประมาณ 2,760 ล้านเหรียญ เหลือแค่ 297 ล้านเหรียญ และก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.พ. ปู่ก็เพิ่งขายหุ้นโกลด์แมนถึง 1 ใน 3 จากที่ถืออยู่เมื่อสิ้นปีที่แล้ว

เรียกได้ว่า “ขายต่อเนื่อง” และ “ขายอุตลุต” จริงๆ

นอกจากนี้ ปู่ยังลดสัดส่วนการถือหุ้นใน เจพี มอร์แกน อีกหนึ่งสถาบันการเงินชั้นนำลงเล็กน้อยประมาณ 3% ยังไม่นับการขายหุ้น US Bancorp ธนาคารขนาดใหญ่ เป็นมูลค่าไม่มากนักประมาณ 16 ล้านเหรียญ ซึ่งเพิ่งเป็นข่าวเมื่อ 2-3 วันก่อนหน้านี้

และยังไม่รวมการลดสัดส่วนการถือหุ้นใน เวลส์ ฟาร์โก แบงก์ลูกรักของปู่ (ที่เพิ่งเจอปัญหาการทุจริต) ในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา โดยขายหุ้นทิ้งไป 14% ซึ่งถือว่าไม่น้อย รวมทั้งอีกหนึ่งธนาคารคือ BNY Mellon ที่เพิ่งลดสัดส่วนลงด้วยเช่นกัน

ที่น่าแปลกใจก็คือ ปู่เพิ่งพูดในการประชุมเบิร์คเชียร์ 2020 ที่ผ่านมาว่า แบงก์ไม่ใช่ธุรกิจที่น่าเป็นห่วงมากนักจากวิกฤตโคโรน่าไวรัส

ปู่บอกว่า “ถ้าปัญหาเศรษฐกิจหนักมากถึงระดับหนึ่ง แม้แต่ธนาคารที่เข้มแข็งก็ยังต้องรับความกดดันอย่างหนัก และเราก็ดีใจมากที่มีระบบธนาคารกลางคอยหนุนหลังพวกเขาอยู่”

“ระบบธนาคารโดยรวมๆ จะไม่เป็นปัญหาอะไร” ปู่ชี้ชัด “พวกเขา (ธนาคาร) ไม่ใช่ประเด็นหลักที่ผมห่วงเลย”

ด้วยเหตุนี้ การที่ปู่ขายหุ้นแบงก์ แม้จะไม่พลิกความคาดหมายอะไรมากนัก เพราะขายมาแล้วตั้งแต่ต้นปี แต่ก็ชวนให้สงสัยว่าปู่คิดอะไรอยู่หรือถึงทำเช่นนี้ เป็นการยอม “ขาดทุนกำไร” มหาศาล ชนิดที่ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ปู่ทำ อาจถูกมองว่าเป็น “พฤติกรรมเม่า” ด้วยซ้ำ

ประเด็นนี้ ผมอยากนำท่านย้อนไปถอดรหัสคำพูดของปู่ ในอีกตอนหนึ่งของการประชุมเบิร์คเชียร์ 2020 ที่ผ่านมา

ปู่เล่าถึงสมัยเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ หรือ Great Depression ว่า วันที่ 3 ก.ย. 1929 ดัชนีดาวโจนส์อยู่ที่ 381.17 จุด ตอนนั้นเป็นช่วงที่ผู้คนแฮปปี้กันมาก แต่แล้ว พอถึงวันที่ 13 พ.ย. 1929 ผ่านมาเพียงสองเดือนกว่า หุ้นก็ตกลงมาเหลือ 198.69 จุด หรือลดลงมา 48% จากจุด high

ปู่บอกว่า ตอนนั้นยังไม่ชัดเจนด้วยซ้ำว่าสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจ “ตกต่ำ” หรือ depression ผู้คนต่างคิดว่าเป็นแค่ภาวะ “ถดถอย” หรือ recession เหมือนครั้งก่อนๆ

หลังจากนั้นเก้าเดือน ในวันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม 1930 ปู่ก็ลืมตาออกมาดูโลก โดยก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน (วันศุกร์ที่ 29 ส.ค.) ตลาดปิดที่ 240.42 จุด ปรับตัวขึ้นมา 20% จากเก้าเดือนก่อนหน้า และพอปู่อายุได้สิบวัน หุ้นก็ขึ้นไปแตะที่ 245 จุด

ถึงตรงนี้ ใครต่อใครพากันมองว่ามรสุมร้ายน่าจะผ่านพ้นไปแล้ว …

ทว่าตลาดกลับ “พังครืน” ลงมาอีกรอบ และรอบนี้คือของจริง !!

จาก high ที่ 245 จุด พอถึงวันที่ 8 ก.ค. 1932 หรือผ่านมาไม่ถึงสองปี ดัชนีกลับลดลงเหลือเพียง 41.22 จุด ทรุดฮวบลงมา 83% จากวันที่ปู่เกิด และลงมา 89% จากจุดพีค โดยเงิน 1,000 เหรียญที่ซื้อ Dow Jones Average ในวันเกิดปู่ จะเหลือแค่ 170 เหรียญ

ย้ำว่าในเวลาไม่ครบสองปีดี

จะเห็นได้ว่า สมัย Great Depression ทีแรกคนยังไม่คิดว่า “รุนแรง” อะไรนัก นึกว่าผ่านมาให้พอสะดุ้ง เดี๋ยวก็คงผ่านไป แม้หุ้นจะตกลงมาเกือบ 50% แต่ก็กลับขึ้นมาพอสมควร นักลงทุนมากมายจึงย้อนเข้าไปในตลาด

ณ จุดนี้เอง ตลาดหุ้นก็พังพาบลงอีกครั้ง และครั้งนี้เป็นการพังชนิด “ล่มสลาย” ไม่เหลือชิ้นดี ก่อนจะเข้าสู่ภาวะ Depression ที่ไม่ใช่แค่  Recession แต่เป็น “Great Depression” คือ “ตกต่ำครั้งใหญ่” เสียด้วย

ผมจึงขอตั้งข้อสงสัยว่า ในวิกฤตโคโรน่าไวรัสครั้งนี้ การที่ปู่ถือเงินสด 137,000 ล้านเหรียญ หรือเกือบ 4.5 ล้านล้านบาท ไม่ยอมซื้ออะไรเลย ทั้งยังทยอยขายหุ้นแบงก์และหุ้นอื่นๆ ทิ้ง

เป็นไปได้ไหมว่า ปู่กำลังมองว่าวิกฤตที่ดูเหมือนเริ่มผงกหัวขึ้นมาอีกครั้งในเวลานี้ สุดท้ายแล้วอาจดิ่งลงเหวลึกยิ่งกว่าเดิม เหมือนฝันร้ายเมื่อ 90 ปีก่อน

ก่อนจบ ขอยกอีกท่อนหนึ่งจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา มาถ่ายทอดไว้

ปู่บอกว่า “เราอาจเจอประสบการณ์ ที่เหตุการณ์อย่างมหาโรคระบาดครั้งนี้เกิดขึ้น ซึ่งมันยากมากเลยที่จะคิดเผื่อไว้ก่อน นี่คือเหตุผลที่เราจะไม่ใช่เงินกู้ หรือมาร์จิ้นเพื่อลงทุน และเราก็บริหารเบิร์คเชียร์กันมาอย่างนี้ เราบริหารมันในรูปแบบที่ในทางทฤษฎี เราจะพร้อมรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุดเสมอ”

“พร้อมรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด” นี่อาจเป็นเหตุผลแห่ง “แอ็คชั่นช็อคโลก” ของปู่ก็เป็นได้


ที่มาของข้อมูล : คลิปถ่ายทอดสดจาก Yahoo! Finance, CNBC, Bloomberg

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s