โดย ชัชวนันท์ สันธิเดช
เรย์ ดาลิโอ มหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลกและสุดยอดผู้จัดการกองทุนออกมาบอกว่า ขณะนี้เป็น “ช่วงเวลาพิเศษสุดๆ” สำหรับตลาดหุ้นโลก ด้วยการที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญความท้าทายอย่างหนักจากสารพัดปัญหา ขณะที่จีนถีบตัวขึ้นมาเป็นตัวหลักในการแข่งขัน
“ป๋าเรย์” บอกว่า เขาเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่พอร์ตของบริดจ์วอเทอร์ บริษัทกองทุนของเขา ต้องมีสินทรัพย์ในจีน “เป็นจำนวนมาก” ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ประวัติศาสตร์ย้อนหลังถึง 50 ปี และด้วยความที่ธรรมชาติของเขา เป็นคนที่ชอบ “เดิมพันกับสิ่งที่คิดว่าจะเกิดขึ้น”
ดาลิโอบอกว่า แม้พัฒนาการด้านตลาดเงินของจีนจะค่อนข้างล้าหลัง เมื่อเทียบกับการเติบโตของประเทศในรอบหลายทศวรรษที่ผ่านมา แต่เขาเชื่อว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แล้ว แผ่นดินมังกรจะ “ไล่ทันอย่างแน่นอน” ด้วยสัดส่วนการค้ามหาศาลในระดับโลก
สำหรับไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ตามรายงานที่ยื่นต่อ กลต. ปรากฏว่ากองทุนบริดจ์วอเทอร์ของดาลิโอเข้าซื้อหุ้นในบริษัทต่างๆ เป็นจำนวนมาก แต่ในสิบอันดับแรกล้วนเป็นหุ้นสหรัฐฯ และเป็นหุ้นในโลกเก่า ซึ่งแทบทั้งหมดเป็นแบรนด์ที่คุ้นหูคนทั่วโลกเป็นอย่างดีอยู่แล้ว และไม่ใช่เทคสต็อคที่เคยร้อนแรงในช่วงต้นของการระบาดของโควิดแต่อย่างใด
โดยเรียงลำดับจาก 1 ถึง 10 ได้ดังนี้ 1. วอลมาร์ท (195 ล้าน) 2. พีแอนด์จี (170 ล้าน) 3. โคค่าโคล่า (100 ล้าน) 4. จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (99 ล้าน) 5. เป๊ปซี่โค (96 ล้าน) 6. แม็คโดนัลด์ (77 ล้าน) 7. แอ็บบ็อตต์ (47 ล้าน) 8. มอนเดอเลซ (39 ล้าน – บริษัทอาหารเครื่องดื่ม) 9. Estee Lauder (38 ล้าน) 10. ดานาเฮอร์ (37 ล้าน – บริษัทผลิตเครื่องมืออุตสาหกรรม)
(ข้อมูลประกอบจาก Yahoo Finance และ Bloomberg)