EBITDA กำไรที่ไม่ลวงตา

EBITDA

ชนิดา พัธโนทัย

ในตอนที่แล้ว เราได้กล่าวถึง EBIT โดยทิ้งท้ายกันไปว่า ยังมีกำไรอีกตัวหนึ่งซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กัน และนักลงทุนหลายคนเน้นเป็นพิเศษ นั่นก็คือ กำไรที่เรียกว่า “EBITDA”

EBITDA หมายถึง “กำไรจากการดำเนินงานที่อยู่ในรูปของเงินสดจริงๆ” ได้จากการนำ EBIT มาบวกด้วย DA โดย DA ในที่นี้หมายถึง “ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย” (Depreciation and Amortization) ซึ่งเป็นรายการที่เราสามารถหาได้จากงบกระแสเงินสด

ทีนี้ถามว่า เหตุใดเราจึงต้องนำ “DA” ไปบวก EDIT ด้วย คำตอบก็คือ เนื่องจาก DA ถือเป็นค่าใช้จ่ายทางบัญชี ซึ่งบริษัทไม่ได้ควักเงินสดจ่ายออกไปจริง ดังนั้น ถ้าอยากรู้กำไรจากการดำเนินงานที่เป็นเงินสดจริงๆ ก็ต้องนำ DA บวกกลับเข้าไป

หลายคนอาจสงสัยว่า ค่าใช้จ่ายทางบัญชีที่บริษัทไม่ได้จ่ายเงินสดออกไปจริงก็มีอยู่ตั้งหลายตัว ทำไมไม่นำมาบวกกลับบ้าง คำตอบก็คือ เพราะค่าใช้จ่ายเหล่านั้นมีมูลค่าไม่สูงมากนัก ต่างจาก DA ซึ่งอาจมีมูลค่าสูงจนถึงระดับที่ถือได้ว่ามีนัยสำคัญสำหรับธุรกิจบางประเภท

อาทิ ธุรกิจที่ลงทุนในอุตสาหกรรมหนัก ใช้เครื่องจักรมูลค่าสูงๆ รวมทั้งพวกธุรกิจโรงแรม อสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ไปจนถึงธุรกิจที่มีลักษณะ “Capital intensive” คือต้องใช้เงินลงทุนก้อนใหญ่ตลอดเวลา

นอกจากนี้ ยังรวมถึงธุรกิจที่ต้องได้รับใบอนุญาตหรือสัมปทาน เช่น โอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือ หรือระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ทางด่วน รถไฟฟ้า เป็นต้น

โดยธรรมชาติแล้ว กิจการพวกนี้จะมี DA สูงมาก ทำให้บริษัทมีกำไรที่แฝงอยู่ในรูปเงินสดมากกว่ากำไรที่เราเห็นในงบการเงิน (EBIT)

ตัวอย่างเช่น จากงบการเงินประจำปี 2556 ของ ADVANC บริษัทมีกำไรสุทธิ 36,274 ล้านบาท EBIT อยู่ที่ 46,765 ล้านบาท ในขณะที่มี EBITDA สูงถึง 63,691 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า ส่วนที่เป็น “DA” นั้นสูงมาก คิดเป็นตัวเลขเท่ากับ 16,926 ล้านบาท เลยทีเดียว

ด้วยเหตุนี้ จึงไม่แปลกที่ ADVANC กล้าจ่ายปันผลถึง 100% ของกำไรสุทธิ พูดง่ายๆ ก็คือ มีกำไรเท่าไร จ่ายปันผลออกมาหมดนั่นเอง (บริษัทระบุนโยบายการจ่ายปันผลไว้ชัดเจนว่าจะจ่าย “ไม่ต่ำกว่า 100%” ของกำไรสุทธิ)

บางคนอาจถามต่อว่า ธุรกิจประเภทนี้ต้องใช้เงินลงทุนสูงไม่ใช่หรือ ถ้าเอาเงินสดมาจ่ายปันผลหมด แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปลงทุนต่อ

ก็อย่างที่บอกไปค่ะ เนื่องจาก EBITDA มีอยู่ถึง 63,691 ล้านบาท แม้จะจ่ายปันผลตั้ง 36,274 ล้านบาท ก็ยังมีเงินสดเหลืออยู่ในบริษัทกว่า 27,000 ล้านบาท เพียงพอที่จะเอาไปลงทุนอย่างแน่นอน

จากที่อธิบายมาทั้งหมด จะเห็นได้ว่า EBITDA คือ “กำไรที่ไม่ลวงตา” เป็นกำไรในรูปเงินสดที่จับต้องได้จริงๆ และเป็นสิ่งที่วีไอพันธุ์แท้ไม่ควรละเลยด้วยประการทั้งปวงค่ะ


** หลักสูตร  “ประเมินมูลค่าหุ้น และ DCF” รุ่น ๘  สอนทำ valuation อย่างมืออาชีพ 26 พ.ค. 61 ที่โรงแรม ดิ เอมเมอรัล รัชดา  คลิกที่นี่