ป๋าคลั่ง! ตะลุยซื้อทองหมื่นกว่าล้าน

IMG_1654
โดย ชัชวนันท์ สันธิเดช
เรย์ ดาลิโอ ยังแน่วแน่ไม่เปลี่ยน ล่าสุด กองทุนบริดจ์วอเทอร์ของเขา ไล่เก็บทองคำมูลค่า
ถึง 400 ล้านเหรียญ (12,800 ล้านบาท) ในไตรมาสที่สอง
จากแบบ 13F ที่รายงานต่อ กลต.เปิดเผยว่า บริษัทของป๋าได้สอยทองคำเข้าพอร์ต ไว้ใน ETF ทองคำสองกอง ได้แก่ iShares Gold Trust และ SPDR Gold Trust ซึ่งทั้งสองกองเป็น ETF ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ทั้งนี้ มูลค่าทองคำใน SPDR กองเดียว ก็ปาเข้าไปถึง 914.3 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก Q1 ซึ่งอยู่ที่ 600 ล้านเหรียญ หรือเพิ่มราว 52% เช่นเดียวกับกองทุน iShares ที่มีทองเพิ่มขึ้นจาก 176 ล้าน เป็น 268.4 ล้านเหรียญ เพิ่มราว 52% เช่นกัน โดยทั้งสองกองถือทองคำไว้ 40 และ 16 ล้านออนซ์ ตามลำดับ
จะเห็นได้ว่า “ป๋าเรย์” กำลังไล่เก็บทองคำอุตลุตเลยทีเดียว
โดย ณ สิ้นสุด Q2 พอร์ตของบริดจ์วอเทอร์ มีมูลค่าอยู่ที่ 5,960 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจาก Q1 ประมาณ 1,000 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าไม่ขี้เหร่ แม้ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นของการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส ดาลิโอจะบ่นว่าตัวเองทำพลาดไปมากมาย
ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นถึง 26% และยังอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ทำให้นักลงทุนแห่กันเข้ามาซื้อ ETF ทองคำเป็นจำนวนมาก จนล่าสุด ETF ทั่วโลกถือทองคำไว้รวมกันมากกว่าธนาคารกลางเยอรมนีเสียอีก จะเป็นรองก็แต่ธนาคารกลางสหรัฐฯ เท่านั้น

สาเหตุสำคัญที่ราคาทองคำขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี ได้แก่ การอ่อนลงของเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ อันเป็นผลจากนโยบายการเงินที่ปั๊มเงินเข้าระบบเพื่อกู้เศรษฐกิจจากวิกฤตโคโรน่าไวรัส ส่งผลให้ค่าเงินอ่อนและดอกเบี้ยต่ำ คนจึงหันมาสะสมทองคำ ซึ่งถูกทองว่าเป็นแหล่งเก็บเงินที่ปลอดภัย

และแม้เมื่อไม่กี่วันก่อนทองจะตกลงมาเยอะ เพราะมีการเตือนกันว่าราคาเฟ้อเกินไปแล้ว แต่หลายฝ่ายก็เชื่อว่า ด้วยสถานการณ์โลกที่ยังไม่มีความแน่นอน บวกกับเงินดอลลาร์ที่สาละวันเตี้ยลง น่าจะทำให้ราคาทองคำยังเป็นขาขึ้นต่อไป
———
ข้อมูลประกอบจาก Business Insider และ Bloomberg

“ป๋าเรย์” แนะ ทิ้ง “เงิน” ถือ “ทอง-หุ้น”

800px-Web_Summit_2018_-_Forum_-_Day_2,_November_7_HM1_7481_(44858045925)

7 November 2018; Ray Dalio, Founder, Co-Chief Investment Officer & Co-Chairman, Bridgewater Associates on the Forum Stage during day two of Web Summit 2018 at the Altice Arena in Lisbon, Portugal. Photo by Harry Murphy/Web Summit via Sportsfile

โดย ชัชวนันท์ สันธิเดช

เรย์ ดาลิโอ นักลงทุนระดับมหาเศรษฐี ผู้จัดการกองทุน Bridgewater และผู้เขียน PRINCIPLES สุดยอดหนังสือขายดี เพิ่งให้สัมภาษณ์ Bloomberg เกี่ยวกับตลาดและเศรษฐกิจขณะนี้ เขาว่าอย่างไร ไปดูกันครับ

1.ตลาดทุนขณะนี้กำลังจัดสรรเงินทุนในรูปแบบที่ไม่ปกติ อันเนื่องมาจากการปั๊มเงินเข้ามาในตลาดของเฟด
2.เศรษฐกิจของประเทศกำลังถูกขับเคลื่อนโดยเฟดและรัฐบาลกลาง
3.เฟดทำถูกต้องแล้วที่ยื่นมือเข้ามาช่วย เพราะถ้าไม่ให้บริษัทต่างๆ กู้ เศรษฐกิจจะสูญเสียอย่างหนัก (ประเด็นนี้ถือว่าเห็นสอดคล้องกับวอร์เรน บัฟเฟตต์ – ผู้เขียน)
4.อีกไม่นานเราจะได้เห็นงบดุลของธนาคารกลาง “ระเบิดตูม” อันเป็นผลจากการโดดเข้าไปอุ้มบริษัททั้งหลาย แต่สิ่งที่เหลือเช่ือกว่านั้นคืออัตราดอกเบี้ยที่จะกลายเป็นศูนย์
5.ดอลล่าร์สหรัฐฯ อาจยุติสถานะที่เคยเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของโลก
6.เร็วๆนี้ นักลงทุนจะช็อคกับค่า P/E ที่อาจพุ่งขึ้นไปถึง 40 เท่า ดังนั้น อย่าใช้ค่า P/E ในกรอบคิดเดิมกับการวัดความถูกแพงของหุ้น
7.ยืนยันเหมือนเดิมว่า “เงินสดคือขยะ” (cash is trash) ยิ่งดอกเบี้ยต่ำเตี้ยติดดิน ถือเงินสดและพันธบัตรรัฐบาลไว้ยิ่งแทบไม่ได้อะไร เผลอๆ หักภาษีแล้วจะกลายเป็นติดลบ
8.ยืนยันเหมือนเดิมอีกเช่นกันว่า ให้หันไปหาสินทรัพย์ที่รักษามูลค่าได้ดี คือ “ทองคำ” รวมถึง “หุ้น”
9.หากวันหนึ่งนักลงทุนรู้สึกว่ามีทางเลือกที่ดีกว่า พวกเขาจะพากันทิ้งพันธบัตรซึ่งให้ดอกเบี้ยต่ำติดดิน และแห่กันไปลงทุนในสินทรัพย์ใหม่นั้น ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง จะส่งผลลบต่อสหรัฐฯ และกระทบต่อระบบภูมิศาสตร์การเมืองของโลกอย่างรุนแรง
10.สุดท้ายแล้ว เมื่อเงินไหลออก เฟดก็ยิ่งต้องตะลุยซื้อหุ้นกู้หรือไม่ก็ขึ้นดอกเบี้ย แต่จะขึ้นดอกเบี้ยมากก็ไม่ได้ เพราะจะยิ่งไปกดราคาสินทรัพย์ต่างๆ ให้ต่ำลง และเกิดการผิดชำระหนี้มากขึ้นตามๆ กันไป


ข้อมูลประกอบ:  business insider, Bloomberg

Image credit: wikipedia

จัดพอร์ตอย่าง เรย์ ดาลิโอ

800px-Web_Summit_2018_-_Forum_-_Day_2,_November_7_HM1_7481_(44858045925)

 

โดย ชัชวนันท์ สันธิเดช

หนึ่งในนักลงทุนชื่อกระฉ่อนโลกที่ถูกถามถึงอย่างมากในช่วงหลังๆ โดยเฉพาะท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 คือ  เรย์ ดาลิโอ มหาเศรษฐี ผู้จัดการกองทุน Bridgewater เฮดจ์ฟันด์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นผู้เขียน PRINCIPLES หนังสือเบสต์เซลเลอร์อันดับหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้

วันนี้จะพาทุกท่านไปดูกันว่า พอร์ตการลงทุนของดาลิโอเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้เห็นถึงแนวคิดของเขา ซึ่งน่าจะเอามาปรับใช้ได้โดยเฉพาะในเวลาเช่นนี้

ทั้งนี้ ผมขอตัดจบ ณ ปี 2019 ก่อนโคโรน่าไวรัส (ซึ่งทำให้มูลค่าพอร์ตของเขาผันผวนอย่างรุนแรง) เพื่อให้สะท้อน “แนวคิด” ของเขาออกมาได้อย่างดีที่สุด ดังนี้ครับ

การลงทุนที่มีสัดส่วนมากที่สุดในพอร์ตของ Bridgewater คิดเป็น 15.9% ด้วยมูลค่ากว่า 2 พันล้านเหรียญ คือกองทุน ETF ของแวนการ์ดสำหรับตลาดเกิดใหม่ (Vanguard FTSE Emerging Markets ชื่อย่อ VWO) โดยกองนี้จะลงทุนในหุ้นตัวหลักๆ ของประเทศอย่าง จีน บราซิล ไต้หวัน เกาหลีใต้ อินเดีย รวมทั้งเมืองไทย

ทั้งนี้ Bridgewater ได้รับผลตอบแทนจากกองทุนนี้เฉลี่ย 5.56% ในรอบสิบปีหลัง จนถึงปี 2019 (ฟังดูดาดๆ มากเลยใช่มั้ยครับ)

สัดส่วนที่รองลงมาในพอร์ตของดาลิโอ คือ SPDR S&P 500 ETF Trust ชื่อย่อกองคือ SPY โดยมีสัดส่วน 15.6% ของพอร์ต เป็นกองทรัสต์ ETF ที่ลงทุนใน S&P 500 หมายถึงหุ้นขนาดใหญ่ 500 ตัวในสหรัฐฯ

นี่อาจถือได้ว่าเป็นขั้วตรงข้ามของ VWO เพราะเป็นการลงทุนในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่และกลางของสหรัฐฯ ซึ่งถูกมองว่าค่อนข้างมั่นคงและเสี่ยงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นตลาดเกิดใหม่ทั้งหลาย

ขอตั้งข้อสังเกตเบื้องต้นไว้ตรงนี้ว่า ดาลิโอชอบ “ETF” ซึ่งหมายถึงกองทุนที่ซื้อขายหน่วยกันในตลาดหลักทรัพย์เสมือนหุ้น มากๆ ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลเรื่องของสภาพคล่องหรืออื่นใดก็ตาม ซึ่งตรงข้ามกับ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่ชอบซื้อหุ้นเป็นรายตัวหรือซื้อทั้งบริษัท

สัดส่วนอันดับสามในพอร์ตของดาลิโอ คือกอง EEM และกอง IEMG ซึ่งเป็น ETF ของตลาดเกิดใหม่เช่นกัน แต่ที่สองกองนี้ต่างจาก VWO คือ เป็นการรวมเอาหุ้นทั้งใหญ่ กลาง และเล็ก ของตลาดเหล่านั้น ไม่ใช่เฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ของแต่ละตลาด โดยดาลิโอถือสองกองนี้อยู่ 8.7% และ 9.4% รวมกันแล้วประมาณ 18%

ตัวอย่างของหุ้นหลักๆ ที่อยู่ในพอร์ตของสองกองนี้ก็คือบริษัทที่เรารู้จักกันดี อาทิ alibaba, tencents, samsung, ping an insurances, china mobile ฯลฯ

ส่วนสุดท้ายที่เป็นชิ้นเป็นอันสักหน่อยและน่าสนใจมากๆ ในพอร์ตของดาลิโอ คือ “ETF ทองคำ” ได้แก่ กอง SPDR Gold Trust ตัวย่อคือ GLD โดยถือไว้เป็นสัดส่วน 4.2%

ตรงนี้ถือว่าไม่น่าแปลกใจ เพราะนักลงทุนผู้นี้ให้ความสำคัญกับทองคำเป็นอย่างยิ่ง เขาเคยบอกว่านักลงทุนทุกคน ไม่ว่ารายใหญ่-รายย่อย ควรมีทองคำอยู่ในพอร์ตของตัวเอง

นี่เป็นอีกจุดหนึ่งซึ่งดาลิโอตรงข้ามกับบัฟเฟตต์ โดยปู่ไม่ชอบทองเพราะมันไม่ให้ผลตอบแทนใดๆ ทว่า “ป๋าเรย์” บอกว่า เราควรมีทองคำไว้เพื่อ “รักษามูลค่า” เนื่องจากในช่วงเวลาแห่งความผันผวนที่มีหนี้ล้นตลาด และมีการพิมพ์เงินเข้ามาเรื่อยๆ “ทอง” นี่แหละที่ปลอดภัยที่สุดและจะช่วยคุณรักษาความมั่งคั่งไว้ได้

นอกเหนือจากสี่ส่วนหลักข้างต้นแล้ว ก็ยังมีการลงทุนอื่นๆ ยิบย่อย เช่น ETF ของเกาหลี 1% ETF ของบราซิลอีกเล็กน้อย และพวกหุ้นกู้เอกชนเกรดดี ตลอดจนพันธบัตรรัฐบาลบางส่วน

นี่คือภาพรวมการลงทุนของสุดยอดนักลงทุนอย่างเรย์ ดาลิโอ จนถึงปี 2019 ก่อนวิกฤตโควิด-19 ซึ่งข้อดีที่เห็นได้ชัดมากๆ คือคนทุกคนสามารถทำตามได้ไม่ยาก เมื่อเทียบกับการลงทุนของ “ขาใหญ่” อีกคนอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์

ใครสนใจ เชิญเอาไปประยุกต์ใช้กับพอร์ตของตัวเองได้ตามอัธยาศัยครับ

——————-

ข้อมูลประกอบ : จากคลิปนี้ , Bridgewater.com และ wikipedia

Image credit :  Harry Murphy / Web Summit via Sportsfile