โดย ชัชวนันท์ สันธิเดช
นานมาแล้ว ผมเคยอ่านหนังสือลงทุนเล่มหนึ่ง ผู้เขียนนำเสนอสูตรการลงทุนที่ฟังดูง่ายจนไม่น่าเชื่อ พออ่านจบ ผมก็ไม่ได้มีความรู้สึกประทับใจที่ตรงไหน แม้ผู้เขียนพยายามบอกให้ “เชื่อ” ในสูตรที่เขานำเสนอ โดยมีข้อมูลสถิติมารองรับ ผมก็ยังไม่เชื่ออยู่นั่นเอง
ผมคิดว่าอาจเป็นความบังเอิญทางสถิติ หรืออย่างมากที่สุด มันก็อาจเป็นแค่ความจริงที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งต่อไปอาจไม่เกิดขึ้นอีกก็ได้ นี่เพราะโดยปกติ ผมเป็นคนค่อนข้างตั้งการ์ด ไม่ค่อยเชื่ออะไรที่ฟังดู “ง่ายเกินจริง” อยู่แล้ว
ผู้เขียนหนังสือเล่มนั้นชื่อ Joel Greenblatt เป็นผู้จัดการกองทุน ซึ่งต่อมาเขาได้ใช้สูตรที่เรียกว่า “Magic Formula” ดังกล่าว สร้างผลตอบแทนได้ปีละกว่า 40% ระหว่างปี 1985-2005 และมีบางข้อมูลระบุด้วยซ้ำไปว่า เขาทำได้เฉลี่ยถึง 50% ในช่วง 10 ปีแรก ระหว่างปี 1985-1994
นั่นแปลว่า สูตรที่ Joel นำเสนอ แม้จะง่ายจนไม่น่าเชื่อ แต่ก็ใช้ได้ผลจริง ทำผลตอบแทนทบเท่าทวีคูณได้จริง และทำให้คนที่เชื่อเขารวยได้จริง ไม่ได้โม้ ส่งผลให้ตัวเขาเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ดีที่สุดในโลกตลอดกาลโดยไม่ต้องสงสัย (ทำลายสถิติ 29% ใน 14 ปี ของ ปีเตอร์ ลินช์ ขาดกระจุย)
พูดมาถึงตรงนี้ หลายท่านคงอยากรู้แล้วใช่มั้ยครับว่า magic formula ที่ว่านั้นคืออะไร?
ผมสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้นะครับ
ข้อแรกคือ ให้จัดอันดับ ROE ของหุ้นทั้งตลาด จาก “มากไปหาน้อย” โดยหุ้นที่ ROE สูงที่สุดในตลาด จะได้อันดับที่หนึ่ง และได้ “1 คะแนน” หุ้น ROE สูงเป็นอันดับสอง จะได้ “2 คะแนน” เรียงกันไปเรื่อยๆ (ดังนั้น หุ้นที่ ROE ต่ำสุดในตลาดหุ้นไทย ก็น่าจะอยู่ที่ลำดับเกือบๆ 600 และได้เกือบๆ 600 คะแนน)
ข้อที่สองคือ ให้เรียงลำดับค่า P/E ของหุ้นทั้งตลาดจาก “น้อยไปหามาก” คือเอาหุ้นที่ P/E ต่ำสุดในตลาดเป็นอันดับหนึ่ง และถือว่าได้ “1 คะแนน” P/E อันดับสองได้ “2 คะแนน” เรียงกันไปเรื่อยๆ จนถึงหุ้นอันดับสุดท้ายในตลาด
จากนั้น ให้เอาคะแนนจากข้อที่หนึ่งและสองมาบวกกัน เช่น หุ้น SMDB มีค่า ROE อยู่ลำดับที่ 10 ในตลาด แต่มี P/E เป็นอันดับที่ 550 หุ้น SMDB จะได้คะแนนทั้งหมด 10+550 = 560 คะแนน
** สุดท้าย ให้เอาคะแนนของหุ้นทุกตัวในตลาดมาเรียงกัน แล้วเลือกลงทุนในหุ้นที่ได้คะแนน “น้อยที่สุด” 30 ตัวแรก โดยลงทุนตั้งแต่ต้นปี แล้วถือไว้จนครบปี จากนั้นจึงเลือกหุ้นชุดใหม่โดยใช้เกณฑ์เดิม **
ท่านเข้าใจผมรึยังครับ ว่าทำไมผมถึง “ไม่เชื่อ” ตอนที่อ่านหนังสือเล่มนี้ครั้งแรก ก็เพราะมัน “ง่ายจนเหลือเชื่อ” นั่นเอง
ในตอนต่อไป จะมาเล่าให้ฟังต่อว่า นอกจากตัวผู้คิดสูตร ที่ทำผลตอบแทนได้ 40%ใน 20 ปี แล้ว คนอื่นๆ ที่เค้าลองใช้สูตรนี้ได้ผลยังไงกันบ้าง รวมทั้งคนไทยที่ใช้ magic formula กับตลาดหุ้นไทยด้วย
… แต่ใบ้ให้ว่า ไม่ขี้เหร่เลยแม้แต่น้อยครับ