โดย ชัชวนันท์ สันธิเดช
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ขณะที่คนไทยจำนวนมากกำลังเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนหรือสนุกสนานในวันหยุดยาว ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมทั้งสหรัฐฯ หาได้หยุดด้วยไม่ ยังคงทำการต่อไปตามปกติ ทว่าตัวเลขดัชนีที่ออกมามิใช่เรื่องดี กลับกลายเป็นเรื่องร้ายอีกครั้งหนึ่ง
กล่าวคือ หุ้นอเมริกา “ลงหนักมาก” สามดัชนีหลักร่วงพร้อมกันกว่าสองเปอร์เซ็นต์ โดย S&P 500 ลบ 2.19% ดาวโจนส์ ลบถึง 2.34% และแนสแด็ค ลบ 2.28% เรียกได้ว่าลงวินาศสันตะโรเลยทีเดียว
นี่อาจถือเป็นโชคดีเล็กๆ ของตลาดหุ้นไทยหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ที่ตลาดปิดทำการ มิเช่นนั้น หากเทียบเคียงกับเหตุการณ์ในรอบสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นไปได้เหมือนกันว่าหุ้นอาจลงไปอีก 40-50 จุด จนหลุด 1,700
ในภาวะหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ ได้มีหนึ่ง “ความคิดเห็นสำคัญ” จาก แจ็ค โบเกิล ผู้ริเริ่ม index fund หรือ “กองทุนอิงดัชนี” ซึ่งเป็นผู้ที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ บอกว่า อาจจะสร้างคุณูปการแก่นักลงทุนอเมริกันมากกว่าใครทั้งหมดในประวัติศาสตร์
โดยปู่แจ็คในวัย “ขึ้นเลข 9” ผู้อยู่ในแวดวงการลงทุนมาเกือบ 70 ปีบอกว่า “ผมไม่เคยเห็นตลาดผันผวนขนาดนี้ ตลอดอาชีพของผม”
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนในหอเกียรติยศผู้นี้เน้นย้ำว่า ไม่ว่าความผันผวนจะมากมายขนาดไหน มันก็เป็นเพียง “เสียงรบกวน” (noise) เท่านั้น
“เมื่อทุกคนมองการพยากรณ์อนาคตต่างๆ เช่น เรื่องอัตราดอกเบี้ยหรือเงินเฟ้อแล้วก็ขาย ก็แปลว่าต้องมีคนซื้ออยู่เช่นกัน”
โบเกิลยังแนะด้วยว่า “หุ้นมันเปลี่ยนมือจากนาย A ไปสู่นาย B จากคนซื้อไปยังคนขาย จากคนขายไปยังคนซื้อ และผมคิดว่าบางครั้งมันอาจจะทำให้นักลงทุนระยะยาวหวั่นไหว”
แต่ปู่แจ็คก็กล่าวเช่นกันว่า “มันทำให้นักลงทุนเสียสมาธิ เพราะพวกเขาเห็นมัน แล้วพวกเขาก็คิดว่านี่เรื่องใหญ่นะ แล้วพอตลาดลงหนักๆ ก็เริ่มตื่นตระหนกแล้วก็ขายซะ สุดท้ายจึงเจ๊ง”
พูดง่ายๆ ก็คือ ให้มองยาวเข้าไว้ อย่าบ้าไปตามตลาด แล้วจะอยู่รอดปลอดภัยนั่นเอง
ช่วงหลังๆ ที่ตลาดร่วงเอาๆ คนหลายรุ่นหลายวัยอาจตกอยู่ในอาการใจฝ่อ ผมจึงเอาคำแนะนำจากนักลงทุนชั้นเซียน-ชั้นครู มาให้ได้อ่านกันบ่อยๆ เผื่อจะช่วยให้นิ่งและมีกำลังใจมากขึ้น จนกว่าจะผ่านมันไปได้นะครับ
———————–
ข้อมูลประกอบ : CNBC
ภาพประกอบ : ปกหนังสือ The House That Bogle Built